ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 2 และ 3 มีความแตกต่างกันอย่างไร

สำหรับใครยังไม่มีความรู้ด้านการต่อประกันภัยว่าตัวเองควรต่อประกันภัยแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับการขับขี่ของตัวเอง เพราะมีให้คุณได้เลือกหลาย ๆ แบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 2 และ 3 ไหนจะมีแบบพิเศษอีกอย่าง 2+ หรือ 3+ เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เราจะมาแนะนำข้อแตกต่างระหว่างประกันแต่ละชนิดกันเพื่อให้คุณสามารถต่อประกันภัยรถยนต์ได้ตรงกับความต้องการของตัวเอง 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 2 และ 3 แตกต่างกันอย่างไร 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด สามารถคุ้มครองทั้งตัวรถของเรา และรถของคู่กรณี รวมไปถึงค่ารักษาพยาบาล และทรัพย์สินของคู่กรณีอีกด้วย หากเราเป็นฝ่ายกระทำผิด นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกรณีที่สูญหายจากการโจรกรรม หรือไฟไหม้จากการใช้งานอีกด้วย ประกันภัยชนิดนี้จึงเหมาะกับรถที่เพิ่งออกใหม่จากโชว์รูม หรือมือใหม่หัดขับนั่นเอง 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ประกันภัยชนิดนี้จะให้ความคุ้มครองน้อยลงมาจากประกันภัยชั้น 1 แต่ในกรณีที่มีการชนเกิดขึ้น เจ้าของรถจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถเองทั้งหมด ส่วนรถของคู่กรณีนั้นประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ประกันชนิดนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีความชำนาญในการขับขี่แล้วอย่างน้อย 5 ปี และมีความรอบคอบในการขับขี่พอสมควร หรืออาจจะเป็นผู้ที่ใช้รถไม่บ่อยนัก เน้นขับไปที่ใกล้ ๆ ซะส่วนใหญ่ 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ประกันภัยชนิดนี้จะรับผิดชอบเพียงแค่รถของคู่กรณีเท่านั้น (ในกรณีที่ผู้ซื้อประกันเป็นฝ่ายผิด) ไม่ครอบคลุมไปยังรถของผู้ซื้อประกันภัย จะแตกต่างจาก ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ตรงที่ประกันชนิดนี้จะไม่สามารถเคลมได้ในกรณีที่เกิดการเฉี่ยวชนกับวัตถุที่ไม่ใช่คู่กรณีเช่น กำแพง ต้นไม้ ฟุตบาท ร่องน้ำ เป็นต้น ทำให้ประกันชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับรถยนต์ที่มีอายุเก่าหลายปี หรือเป็นรถที่ใช้นาน ๆ ครั้ง 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ จะครอบคลุมการให้ประกันเช่นเดียวกันกับ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 แต่จะไม่ครอบคลุมไปยังกรณีที่รถเกิดการเฉี่ยวชนกับสิ่งของต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ยานพาหนะ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองแบบประกันภัยชั้น 1 แต่จ่ายค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่า 

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ จะให้ความคุ้มครองแบบประกันภัยชั้น 3 แต่จะเพิ่มเติมความครอบคลุมทั้งรถของผู้ซื้อประกัน และรถของคู่กรณี 

อย่างไรก็ตามการต่อประกันภัยในแต่ละครั้งนั้น ควรคำนึงถึงความจำเป็นของผู้ใช้งานรถยนต์เป็นหลักว่ามีการใช้รถในรูปแบบใด หากคุณเป็นคนใช้รถประจำ และยังมีงบประมาณไม่จำกัด ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการต่อประกันครั้งถัดไป